ข่าว

คลินิกแก้หนี้ปรับเกณฑ์รองรับรายใหม่ รายละเอียดดังนี้

คลินิกแก้หนี้ปรับเกณฑ์รองรับรายใหม่ รายละเอียดดังนี้

น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ ได้มีมติปรับเกณฑ์คุณสมบัติการสมัครเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ โดยขยายให้ครอบคลุมลูกหนี้ที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย จากเดิมก่อนวันที่ 1 กันยายน 2565

เป็นก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อรองรับหนี้เสียรายใหม่ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป คณะกรรมการฯ ยังอยู่ระหว่างกำหนดแนวทางปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อให้โครงการสามารถช่วยแก้ปัญหาหนี้เสียจากบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ได้ครอบคลุมและทันเวลายิ่งขึ้น

น.ส.สิริธิดา ระบุว่า แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้น แต่จากสถานการณ์ที่ยังมีความผันผวน พบว่าปัญหาหนี้ส่วนใหญ่ยังคงมีอยู่ และกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งสอดคล้องกับคำขอปรับโครงสร้างหนี้ส่วนใหญ่ ภายใต้มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน ที่ ธปท. ได้จัดร่วมกับกระทรวงการคลัง ในช่วงที่ผ่านมา

ข่าวปลอม! กู้เงินกรุงไทย 50,000-300,000 บาท กู้ได้ทุกอาชีพ

ข่าวปลอม! กู้เงินกรุงไทย 50,000-300,000 บาท กู้ได้ทุกอาชีพ

กู้เงินกรุงไทย 50,000-300,000 บาท กู้ได้ทุกอาชีพจริงหรือเปล่า ล่าสุดธนาคารกรุงไทยตอบแล้ว ตามที่มีข้อมูลในประเด็นเรื่องเพจเฟซบุ๊กชื่อ เงินด่วน เพื่อคุณ เป็นเพจของธนาคารกรุงไทย เปิดให้กู้ทุกอาชีพ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางธนาคารกรุงไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “เงินเด่วน เพื่อคุณ” ใช้โลโก้ของธนาคารกรุงไทย โพสต์เชิญชวนให้ประชาชนลงทะเบียนกู้ในวงเงิน 50,000–300,000 บาท ทุกอาชีพ ทางธนาคารกรุงไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ มีการแอบอ้างนำชื่อและโลโก้ของธนาคารไปใช้ สร้างความสับสนแก่ประชาชน

โดยธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น และธนาคารไม่มีนโยบายในการส่งลิงก์เพื่อให้ประชาชนกรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ หรือเปิดให้ลงทะเบียนผ่านโปรแกรมสนทนาอื่นๆ

ดังนั้น ประชาชนควรระมัดระวังในการกรอกข้อมูลและไม่ควรกดลิงก์แปลกน่าสงสัยที่ส่งโดยไม่ทราบที่มาชัดเจน และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ Krungthai Contact Center 02-111-1111 หรือแจ้งผ่าน Facebook : Krungthai Care

เช็กเงินประกันรายได้ข้าว-เงินเยียวยาชาวนา ธ.ก.ส. 

เช็กเงินประกันรายได้ข้าว-เงินเยียวยาชาวนา ธ.ก.ส. 

นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าธ.ก.ส. เตรียมโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีเกษตรกรผ่านมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 แก่เกษตรกรอีกกว่า 9,184 ครัวเรือน เป็นจำนวนเงิน 24.91 ล้านบาท ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ โดยแบ่งเป็น โครงการ

สนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (โครงการไร่ละพัน) ครั้งที่ 12 เป็นเงินกว่า 21.72 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 3,302 ครัวเรือน และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 งวดที่ 19 และงวดที่ 1 – 18 (เพิ่มเติม) เป็นเงินกว่า 3.19 ล้านบาท และมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 5,882 ครัวเรือน

ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้เริ่มดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ประกอบไปด้วย โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (โครงการไร่ละพัน) ไปแล้วจำนวนกว่า 53,896.82 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 4.62 ล้านครัวเรือน และ

โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 1 – 17 จำนวนเงิน 7,847.73 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์ไปแล้ว 2.60 ล้านครัวเรือน โดยเกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile และ A-Mobile Plus ตลอด 24 ชั่วโมงและจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family

กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ สำหรับเกษตรกรที่มีข้อสอบถามเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555

ยาคูลท์ ประกาศขึ้นราคาในรอบ 11 ปี มีผล 1 มีนาคม 66

ยาคูลท์ ประกาศขึ้นราคาในรอบ 11 ปี มีผล 1 มีนาคม 66

เพจเฟซบุ๊ก ยาคูลท์ ประเทศไทย โพสต์ข้อความระบุ ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนในการผลิตนมเปรี้ยวยาคูลท์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ “ยาคูลท์” มีความจำเป็นต้อง “ขอปรับราคาจำหน่ายสินค้า เพิ่มขึ้น 1 บาทต่อขวด” โดยจะขอปรับขึ้นราคาสินค้าตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 66

“สาวยาคูลท์” ขอขอบพระคุณลูกค้าที่เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีโอกาสได้ส่งต่อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต เพื่อดูแลสุขภาพของคุณลูกค้าตลอดไป

ผู้นำ แนะรับมือความท้าทายในโลกธุรกิจปี 2023

ผู้นำ แนะรับมือความท้าทายในโลกธุรกิจปี 2023

เมื่อ “โลก” ก้าวสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและไม่สามารถบ่งบอกถึงจุดสิ้นสุดได้ จากหลายปัจจัยทั้งเรื่องปัญหาการเมืองระหว่างประเทศและความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางด้านสภาพภูมิอากาศ รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ ล้วนคาดเดาได้ยาก และส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม แม้ในปี 2023 ทั่วโลกจะผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 มาแล้ว แต่ก็ยังมีความเสี่ยงและความท้าทายที่คาดเดาไม่ได้รออยู่ ทำให้แสงสว่างที่เห็นก็ยังดูมัว ๆ ไม่สดใสนัก

ในโลกธุรกิจปัจจุบัน “การปรับตัว” ขององค์กร เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งหัวใจสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์กรคือ “Leadership” หรือ “ผู้นำ” ที่เปรียบได้เสมือน “โค้ช” คอยชี้แนะแนวทางการทำงาน และกำหนดกลยุทธ์เพื่อนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมาย

โดยมุมมองและแนวคิดของผู้นำองค์กร 3 ท่าน ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับความท้าทายของผู้นำในโลกธุรกิจปี 2023 ผ่านเวทีเสวนาหัวข้อ “Leadership In 2023 Business World” จัดโดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ยิ่งตอกย้ำความเชื่อที่ว่า “การมีผู้นำที่ดี จะนำพาองค์กรให้ก้าวผ่านได้ทุกอุปสรรค”

สรรพากร ต้อน “ยูทูปเบอร์,อินฟลูเอนเซอร์” รีดภาษีออนไลน์เข้าระบบ

สรรพากร ต้อน "ยูทูปเบอร์,อินฟลูเอนเซอร์" รีดภาษีออนไลน์เข้าระบบ

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ระบุ ปัจจุบันรูปแบบการทำธุรกิจเปลี่ยนแปลงมากขึ้น หลายธุรกิจเน้นระบบออนไลน์ โดยเฉพาะการไลฟ์สดขายของโดยไม่ต้องมีหน้าร้าน ทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น รายได้หมุนเวียนผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ดังนั้น ระบบการเสียภาษี และจัดเก็บภาษีที่ต้องตามให้ทัน

กรมสรรพากร ได้มีการตั้งกองสำรวจ และติดตามธุรกิจนอกระบบ ทำหน้าที่ตรวจสอบคน หรือธุรกิจที่อยู่นอกระบบภาษีให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษีอย่างถูกต้อง โดยในปีงบประมาณ 65 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการในกลุ่มดังกล่าวเข้าสู่ระบบภาษีมากถึง 2 แสนราย

สำหรับกลุ่มธุรกิจนอกระบบที่เป็นเป้าหมายหลัก คือกลุ่มที่มีรายได้ค่อนข้างสูง ซึ่งปัจจุบันก็คือแม่ค้าออนไลน์ การไลฟ์สดขายของ อินฟลูเอ็นเซอร์ ยูทูปเบอร์ต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้ถือเป็นหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยทำให้รายได้ภาษีขยายตัวตามสิ่งที่ควรจะเป็น โดยหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมานั้นจะตรวจสอบและติดตามให้ธุรกิจนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบอย่างถูกต้อง

ขณะเดียวกัน กรมสรรพากรขอเชิญชวนให้ผู้ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องจดทะเบียนภาษี VAT ให้เข้ามาจดทะเบียนให้ถูกต้อง โดยยืนยันว่าเรื่องภาษีไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว ทั้งนี้ กรมสรรพากร พร้อมที่จะประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเสียภาษีตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ระบบ ไปจนถึงกระบวนการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งทีผ่านมาก็ได้มีการปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ ให้สามารถทำได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2566 ได้รับเป้าหมายจัดเก็บรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-ม.ค. 66) เก็บได้เกินกว่าเป้าหมายถึง 6 หมื่นล้านบาท สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอานิสงส์จากจีนเปิดประเทศ ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและบริการของไทยเป็นอย่างมาก ทำให้มั่นในว่าการจัดเก็บรายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณอย่างแน่นอน

รีบสมัครด่วน! หาคนทำงานที่มาเก๊า เงินเดือนสูงสุด 50,200 บาท

รีบสมัครด่วน! หาคนทำงานที่มาเก๊า เงินเดือนสูงสุด 50,200 บาท

กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน รับสมัครคนหางานเพื่อไปทำงานในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า กับนายจ้างบริษัท Venetian Cotai Hotel Management Limited และ Venetian Macau Limited รับสมัครตั้งแต่วันที่ 8-20 ก.พ. 66 โดยรับสมัครจำนวน 5 ตำแหน่ง รวมจำนวน 60 อัตรา

สำหรับตำแหน่งงานจำนวนที่ต้องการ และอัตราค่าจ้าง

F&B Server (พนักงานเสิร์ฟ)

  • จำนวน 10 อัตรา
  • ค่าจ้าง 12,100 เหรียญมาเก๊าต่อเดือน คิดเป็นเงินบาทราว 50,200 บาท

Room Attendant (พนักงานดูแลทำความสะอาดห้องพัก)

  • จำนวน 20 อัตรา
  • ค่าจ้าง 10,500 เหรียญมาเก๊าต่อเดือน คิดเป็นเงินบาทราว 43,500 บาท

Public Area Attendant (พนักงานดูแลทำความสะอาดพื้นที่ทั่วไป)

  • จำนวน 20 อัตรา
  • ค่าจ้าง 11,800 เหรียญมาเก๊าต่อเดือน คิดเป็นเงินบาทราว 48,900 บาท

Guest Service – Guest Relations Officer (Bell) (พนักงานยกกระเป๋า)

  • จำนวน 5 อัตรา
  • ค่าจ้าง 11,084 เหรียญมาเก๊าต่อเดือน คิดเป็นเงินบาทราว 46,000 บาท

Front Office – Guest Relations Officer (พนักงานต้อนรับส่วนหน้า)

  • จำนวน 5 อัตรา
  • ค่าจ้าง 13,515 เหรียญมาเก๊าต่อเดือน คิดเป็นเงินบาทราว 46,000 บาท

(อัตราแลกเปลี่ยนตามข้อมูลสำนักงานแรงงาน ณ เมืองฮ่องกง : 1 เหรียญมาเก๊า เท่ากับ 4.15 บาท)

คุณสมบัติของผู้สมัครโดยทั่วไปทุกตำแหน่ง

  • มีความสามารถภาษาอังกฤษระดับดี หากสื่อสารภาษาจีนกลาง หรือภาษาอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีนกวางตุ้น จะได้รับการพิจารณาพิเศษ
  • มีประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 1 ปี

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง

F&B Server (พนักงานเสิร์ฟ)

  • เพศชาย/หญิง อายุระหว่าง 21-30 ปี
  • ส่วนสูงขั้นต่ำ เพศหญิง 163 ซม. เพศชาย 170 ซม.
  • การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป (ม.6)
  • หากมีประสบการณ์โรงแรมระดับ 4-5 ดาว หรือร้านอาหารคุณภาพจะพิจารณาพิเศษ
  • มีความสุขภาพ เรียบร้อย บุคลิกภาพที่ดี ทัศนคติที่ดี

Room Attendant (พนักงานดูแลทำความสะอาดห้องพัก)

  • เพศหญิง/ชาย อายุระหว่าง 21-35 ปี
  • การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป (ม.6)
  • มีความสุขภาพเรียบร้อยและบุคลิกภาพที่ดี

Public Area Attendant (พนักงานดูแลทำความสะอาดพื้นที่ทั่วไป)

  • เพศหญิง/ชาย อายุระหว่าง 21-40 ปี
  • การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป (ม.3)

Guest Service – Guest Relations Officer (Bell) (พนักงานยกกระเป๋า)

  • เพศชาย อายุระหว่าง 21-35 ปี
  • การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป (ม.6)
  • มีความสุขภาพเรียบร้อย มีบุคลิกภาพที่ดี มีใจรักบริการ

Front Office – Guest Relations Officer (พนักงานต้อนรับส่วนหน้า)

  • เพศหญิง/ชาย อายุระหว่าง 21-35 ปี
  • ส่วนสูงขั้นต่ำ เพศหญิง 160 ซม. เพศชาย 170 ซม.
  • การศึกษาระดับปริญญาตรี หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง
  • มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ และความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ Opera จะพิจารณาพิเป็นพิเศษ
  • มีความสุขภาพเรียบร้อย มีบุคลิกภาพที่ดี และมีใจรักบริการ

สวัสดิการในการจ้างงาน

  • ตั๋วเครื่องบินจากไทยไปยังมาเก๊า เพื่อรายงานตัวไปทำงาน และมาเก๊ามายังประเทศไทยเมื่อสิ้นสุดสัญญาจ้าง
  • ที่พักชั่วคราว ตามที่กฎหมายแรงงานมาเก๊า และนโยบายของบริษัทกำหนด
  • นายจ้างจัดอาหารให้ในระหว่างเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่
  • มีประกันสุขภาพ
  • สวัสดิการอื่นๆ ที่มิได้ระบุ ให้เป็นไปตามกฎหมายแรงงานมาเก๊า

รับสมัครระหว่างวันที่ 8-20 ก.พ. 66 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) สามารถยื่นใบสมัครได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางอีเมล์ โดยให้ดำเนินการ 2 ขั้นตอนภายในวันเดียวกัน คือ ยื่นใบสมัครทางอีเมล์ และกรอกข้อมูลเบื้องต้นลงใน Google Forms

CRC ทุ่มงบ 28,000 ล้านบาท สร้าง The Next Sustainable Growth

CRC ทุ่มงบ 28,000 ล้านบาท สร้าง The Next Sustainable Growth

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “ปี 2565 ที่ผ่านมา เซ็นทรัล รีเทล ได้ดำเนินแผนธุรกิจตามยุทธศาสตร์ 5 ปี CRC Retailligence และสร้างความสำเร็จในการขยายพอร์ตธุรกิจให้เติบโตทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ และเฮลธ์แอนด์เวลเนส โดยสร้างรายได้รวมเติบโตมากกว่า 20% ถือเป็นผลประกอบการที่เกินเป้าที่ตั้งไว้ในปี 2565”

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 เซ็นทรัล รีเทล มองเห็นสัญญาณบวกของภาคค้าปลีกและบริการในทั้ง 3 ประเทศ จากสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก การเปิดประเทศของจีน รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัว โดยเซ็นทรัล รีเทล อัดงบลงทุน 28,000 ล้านบาท ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเต็มกำลัง บนยุทธศาสตร์

CRC Retailligence ที่เพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นที่จะสร้างเซ็นทรัล รีเทล ให้เป็นเบอร์ 1 Next-Gen Omni Retailer ของเอเชีย พร้อมสร้างการเติบโตในประเทศเวียดนามอย่างก้าวกระโดด ด้วยการขยายโมเดลธุรกิจฟู้ดและศูนย์การค้า GO! ที่แข็งแกร่ง ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ

เป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 ตามเจตนารมณ์การเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืนรายแรกในประเทศไทย โดยเป้าหมายทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้จริงจากการสร้างปรากฏการณ์ The Next Sustainable Growth ของเซ็นทรัล รีเทล ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย

1. Accelerate Core Leadership – เร่งสร้างการเติบโตของกลุ่มธุรกิจหลักในทั้ง 3 ประเทศ

  • กลุ่มแฟชั่น : ตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มแฟชั่น โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายห้างสรรพสินค้าลักชูรี่ในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อต่อยอดธุรกิจกลุ่มแฟชั่นให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งสินค้าใหม่ แบรนด์ใหม่ และเชื่อมต่อแพลตฟอร์มของห้างลักชูรี่ทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้าสามารถช้อปปิ้งจากทุกห้างของกลุ่มได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมทั้งเดินหน้าขยาย และรีโนเวทสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนจะเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสัน อีก 2 สาขา ในปีนี้
  • กลุ่มฮาร์ดไลน์ : เสริมแกร่งความเป็นผู้นำในกลุ่มฮาร์ดไลน์ของประเทศไทย ด้วยการเร่งเครื่องขยายสาขาใหม่ของไทวัสดุ และไทวัสดุ ไฮบริด ฟอร์แมท รวมอีก 10 สาขาในปีนี้
    กลุ่มฟู้ด : สร้างการเติบโตในเวียดนามอย่างก้าวกระโดด รวมถึงผลักดันแบรนด์ Tops ขึ้นเป็น Food Discovery & Destination และ เบอร์ 1 Food Omni Retailer ด้วยการขยายสาขา Tops รวมอีก 15 สาขาในปีนี้
  • กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ : ขึ้นแท่นผู้นำศูนย์การค้า Lifestyle and Experiential Community Platform ของประเทศไทย ด้วยการขยายและรีโนเวทศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในปีนี้ นอกจากนี้ในเวียดนามก็มีการก่อสร้างศูนย์การค้า GO! สาขาใหม่ๆ เพื่อเตรียมเปิดอีก 6-8 สาขา ในปี 2567
    สร้างฐานการเงินที่แข็งแกร่ง บนกลยุทธ์ 3C คือ Cost บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, Capex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดใน Strategic Business และเร่งขยาย Proven Format และ Cash Flow ขยายขีดความสามารถในการจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้มีความรวดเร็ว คล่องตัว และเพิ่มกระแสเงินสดให้มากขึ้น สำหรับสร้างการเติบโตทางธุรกิจต่อไป

2. Reinvent Next-Gen Omni Retail – ยกระดับ CRC Ecosystem ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีและระบบต่างๆ ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก มาสร้างการเติบโตแบบ Inclusive Growth ให้ทั้งลูกค้า แบรนด์ และพาร์ทเนอร์ บนแพลตฟอร์ม Next-Gen Omni Retail เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกมิติให้แก่ผู้บริโภค

ทั้งในด้าน Experience-driven ที่เชื่อมโยงทุกช่องทางอย่างไร้รอยต่อ การใช้ AI เพื่อมอบสินค้าและบริการที่ตรงใจลูกค้าแบบ Smart Retail รวมถึงการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็ว ตามเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปด้วย Agile Commerce และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกที่ทุกเวลาแบบ Multi-Moment

3. Build New Growth Pillars – ต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น โดยมีแผนเปิดตัวธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อเสริมทัพธุรกิจในประเทศไทยและเวียดนาม

4. Drive Partnership, Acquisition and Spin Off – ขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรและการทำ M&A พร้อมนำ MEB เบอร์ 1 แพลตฟอร์ม E-Book เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เสนอขายหุ้น IPO แก่ประชาชนทั่วไป ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

“ทั้ง 4 กลยุทธ์ดังกล่าว จะทำให้เซ็นทรัล รีเทล เติบโตสู่ The Next Sustainable Growth และคาดว่าจะสร้างรายได้รวมในปี 2566 ราว 270,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ตอกย้ำการเป็น Green & Sustainable Retail ผ่าน 4 กลยุทธ์ ‘ReNEW’ โดยตั้งเป้าระยะสั้น

ในปี 2566 ที่จะนำพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ให้ได้ 30%, ลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบ 10% และลดการใช้น้ำ 10%, เพิ่มการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสัดส่วน 20% ของสินค้าทั้งหมด และเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากการปลูกป่าอีก 5,000 ไร่ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก โดยเซ็นทรัล รีเทล พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการทำทุกสิ่งที่สามารถทำได้ เพื่อส่งมอบโลกที่น่าอยู่ให้กับคนเจนเนอเรชั่นต่อๆ ไป” นายญนน์ กล่าวสรุป

ราคาทองวันนี้ 3กุมภาพันธ์2566 ลุ้นทองคำแท่งหลุดบาทละ 30,000 บาท

ราคาทองคำ

ราคาทองวันนี้ เป็นอย่างไรกันบ้าง มาดูกานอัปเดตกัน ราคาทอง ราคาทองคำ ประจำวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09:37 น. ครั้งที่ 1 ลดลง 50 บาท ลุ้นทองคำแท่งหลุดบาทละ 30,000 บาท

ราคาทองรูปพรรณ และราคาทองคำแท่ง

ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 29,900.00 บาท ขายออกบาทละ 30,000.00 บาท

ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 29,364.92 บาท ขายออกบาทละ 30,500.00 บาท

ราคาทองวันนี้ 2 สลึง หรือ 50 สตางค์

ทองคำแท่ง 2 สลึง รับซื้อ 14,950 บาท ขายออก 15,000 บาท

ทองรูปพรรณ 2 สลึง รับซื้อ 14,682.46 บาท ขายออก 15,250 บาท

ราคาทองวันนี้ 1 สลึง

ทองคำแท่ง 1 สลึง รับซื้อ 7,475 บาท ขายออก 7,500 บาท

ทองรูปพรรณ 1 สลึง รับซื้อ 7,341.23 บาท ขายออก 7,625 บาท

ราคาทองวันนี้ 1/2 สลึง (ครึ่งสลึง)

ทองคำแท่ง 1/2 สลึง รับซื้อ 3,737.5 บาท ขายออก 3,750 บาท

ทองรูปพรรณ 1/2 สลึง รับซื้อ 3,670.615 บาท ขายออก 3,812.5 บาท

ราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร

ราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันวันนี้ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR ในกลุ่มบริษัท ปตท. และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 0.30 บาทต่อลิตร  ส่วน Super Power GSH95 และกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 2 ก.พ. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

ราคาน้ำมัน มีผล 2 ก.พ. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

  • เบนซิน 95 : 43.76 บาทต่อลิตร
  • แก๊สโซฮอล์ 95 : 35.95 บาทต่อลิตร
  • แก๊สโซฮอล์ 91 : 35.68 บาทต่อลิตร
  • E20 : 34.04 บาทต่อลิตร
  • E85 : 34.49  บาทต่อลิตร
  • ดีเซล : 34.94 บาทต่อลิตร
  • B20 : 34.94 บาทต่อลิตร

(ราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่)