ข่าวเศรษฐกิจ

ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ “บิ๊กป้อม” มีทรัพย์สินเท่าไหร่ มาดูกัน!

ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ "บิ๊กป้อม" มีทรัพย์สินเท่าไหร่ มาดูกัน!

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บิ๊กป้อม หรือลุงป้อมที่เรารู้จัก ถือเป็นพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ และเป็นผู้มากบารมีที่สุดที่นักการเมืองให้ความเคารพ และเกรงใจ อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวม Connection แห่งยุคอีกด้วย ต้องบอกเลยว่า ตลอดเส้นทางของชายชาติทหารของ “บิ๊กป้อม” เติบโตมาจากกองทัพภาคที่ 1 ทางภาคตะวันออก สังกัดกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) เรียกกันว่า “ทหารเสือราชินี” เป็นนายทหารรุ่นพี่ที่สนิทสนมกับนายทหารอดีตผู้บัญชาการทหารบก 2 นาย คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา “บิ๊กป๊อก” และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “บิ๊กตู่” ถือได้ว่าเป็นพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ที่มี บิ๊กป๊อกเป็นน้องรอง และบิ๊กตู่เป็นน้องเล็ก

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ถือเป็นพี่ใหญ่ที่คอยผลักดันดูแลน้องรอง และน้องเล็กอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่เริ่มชีวิตนายทหาร จนไต่เต้าสู่ผู้นำกองทัพบก โดยเมื่อปลายปี 2551 บิ๊กป้อม กับบิ๊กป๊อก ผบ.ทบ. ในขณะนั้นมีส่วนสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลพลิกขั้วที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยได้วาง พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ. ต่อจาก บิ๊กป๊อก

อีกทั้งประคับประคอง บิ๊กตู่ ให้เป็น ผบ.ทบ. ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แม้ภาพลักษณ์บิ๊กป้อม จะถูกมองว่าเป็นทหารการเมืองก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง “3 ป.” ยังคงแนบแน่น แม้กระทั่งในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศในนามหัวหน้า คสช. หลังรัฐประหารล้มล้างรัฐบาลพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร ก็ยังคงประคับประคองน้องเล็กอยู่เสมอ

สำหรับทรัพย์สินของพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” สำนักข่าวอิศรา และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช). เคยรายงานทรัพย์สิน และหนี้สินของรัฐมนตรีระดับนายพล ในช่วงที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2558 โดยพบว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แจ้งว่าโสด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 87,373,757 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 87,373,757 บาท แบ่งเป็นดังนี้
เงินฝาก 53,197,562 บาท
เงินลงทุน 7,076,195 บาท
ที่ดิน 17 ล้านบาท
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 10 ล้านบาท
ยานพาหนะ 1 แสนบาท
ไม่มีหนี้สิน

กินนิ่ม!เปิดทรัพย์สิน ” กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ” สมาชิกวุฒิสภาชื่อดัง

กินนิ่ม!เปิดทรัพย์สิน " กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ " สมาชิกวุฒิสภาชื่อดัง

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเขาเป็นหนึ่งใน ส.ว. ที่โต้ตอบกับนักการเมืองพรรคดังได้อย่างเผ็ดร้อนจนชาวเน็ตแชร์กันอย่างแพร่หลาย ต้องบอกเลยว่า ประวัติของ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ น่าสนใจไม่น้อย นายกิตติศักดิ์ เป็นชาวพิจิตร จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนคลองขลุง

จ.กำแพงเพชร ในปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ส.ว. มาจากการเลือกโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และตำแหน่งอื่นๆ ได้แก่ รองประธานคณะกรรมาธิการ กมธ. การพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา และกรรมาธิการ กมธ. การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา

สำหรับประวัติการทำงานของ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ที่ผ่านมาจะคลุกคลีอยู่ในแวดวงด้านการเกษตร ทั้งเรื่องข้าว, การติดตามเงินค่าจำนำข้าว, ตรวจสอบโครงการรับจำนวนข้าวจังหวัดพิจิตร, ประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหนือ จนกระทั่งขึ้นเป็นตำแหน่ง สมาชิกวสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

นอกจากนี้ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ เคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อปี 2562 ว่า มีรายได้ต่อปี 284,000 บาท รายจ่าย 240,000 บาท ทรัพย์สิน 1,654,849.42 บาท หนี้สิน 300,160 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 1,354,689.42 บาท อย่างไรก็ตามนายกิตติศักดิ์

แจ้งสถานภาพสมรส ภรรยาชื่อนางฉลอง รัตนวราหะ แต่แจ้งว่าภรรยาไม่มีทรัพย์สิน นอกจากนี้ สำนักข่าวอิศรา เคยรายงานว่า นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ เคยแจ้งถือครองที่ดิน ส.ป.ก. หมายเลข 3755 หมู่ 14 อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ได้มาเมื่อ 22 พ.ย.2536 เนื้อที่ 12-0-82 ไร่มูลค่า 600,000 บาท

ราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร

ราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร

ราคาน้ำมันวันนี้ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR ในกลุ่มบริษัท ปตท. และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร ส่วน Premium GSH95 และกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 15 ก.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

ราคาน้ำมันวันนี้ มีผล 15 ก.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

  • เบนซิน 95 : 44.74 บาทต่อลิตร
  • แก๊สโซฮอล์ 95 : 36.95 บาทต่อลิตร
  • แก๊สโซฮอล์ 91 : 36.68 บาทต่อลิตร
  • E20 : 34.64 บาทต่อลิตร
  • E85 : 35.09  บาทต่อลิตร
  • ดีเซล : 31.94 บาทต่อลิตร
  • B20 : 31.94 บาทต่อลิตร

(ราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่)

สุชาติ ตันเจริญ ทรัพย์สินเหลือล้น ผู้โด่งดังในสนามการเมือง

สุชาติ ตันเจริญ ทรัพย์สินเหลือล้น ผู้โด่งดังในสนามการเมือง

สุชาติ ตันเจริญ เป็นนักการเมืองแปดริ้ว เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดฉะเชิงเทรา 9 สมัย เคยสังกัดพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์, พรรคสามัคคีธรรม, พรรคไท, พรรคชาติไทย พรรคไทยรักไทย, พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในปี 2535 และปี 2538 เคยดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในปี 2548 และปี 2562

นายสุชาติ ได้รับฉายาว่า “ตี๋กร่าง” จากการทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรในแบบที่ไม่ยอมใครง่ายๆ อีกทั้งยังถูกเรียกจากสื่อว่า พ่อมดดำ เพราะเป็นบิดาของนายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ ดารานักแสดง ดีเจ และพิธีกรชื่อดัง

สำหรับทรัพย์สินของ นายสุชาติ ตันเจริญ ล่าสุดนั้น พบว่าข้อมูลจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รายงานทรัพย์สิน และหนี้สินของ นายสุชาติ ตันเจริญ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 66 มีทรัพย์สินจำนวน 53,515,557.79 บาท มีหนี้สิน จากเงินเบิกเกินบัญชี จำนวน 589,332 บาท

ลุ้น! ลดค่าไฟงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 66 ลดลง 20 สตางค์ต่อหน่วย

ลุ้น! ลดค่าไฟงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 66 ลดลง 20 สตางค์ต่อหน่วย

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า แนวโน้มค่าไฟงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 มีโอกาสลดลงอย่างน้อย 20 สตางค์ต่อหน่วย จากงวดปัจจุบัน (พ.ค.-ส.ค.66) อยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย ส่วนหนึ่งมาจากราคา LNG ปรับลดลง

โดยปัจจุบัน ราคา LNG Spot อยู่ที่ 13.295 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ส่วนราคาถ่านหินนั้นสูงขึ้น ดังนั้น ตัวแปรสำคัญคือปริมาณก๊าซในอ่าวไทยโดยเฉพาะแหล่งเอราวัณที่กลุ่มปตท. ระบุว่าเดือน ก.ค.66 จะมีกำลังผลิตที่ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากปัจจุบันที่ระดับ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ทั้งนี้ จากประมาณการณ์ที่ ปตท. ส่งมาพบว่าราคา Pool Gas ลดลง 55.5 บาทต่อล้านบีทียู และหากคืนหนี้ให้ กฟผ. ตามที่เคยเสนอมางวดละประมาณ 20,000 ล้านบาท จะทำให้ค่าไฟงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 ลดลงอย่างน้อย 20 สตางค์ต่อหน่วย

ขณะนี้ สำนักงาน กกพ. อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอข้อมูลต่ออนุกรรมการค่าเอฟที ซึ่งคาดว่าจะเข้าพิจารณาต้นเดือน ก.ค.66 ก่อนจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ กกพ. เพื่อสรุปเป็นทางการอีกครั้งต่อสาธารณชนไม่เกินเดือน ก.ค.66

ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งยกเลิกบริการ SCB EASY NET ตั้งแต่ 14 ก.ค. นี้

ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งยกเลิกบริการ SCB EASY NET ตั้งแต่ 14 ก.ค. นี้

ธนาคารไทยพาณิชย์ ขอแจ้งยกเลิกการให้บริการ SCB EASY NET ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 66 เป็นต้นไป เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป ลูกค้าสามารถใช้บริการ-ธุรกรรมทางการเงินผ่าน SCB EASY App ได้

ธนาคารไทยพาณิชย์ ขอแจ้งยกเลิกการให้บริการ SCB EASY NET (ระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง) ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 66 เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป โดยลูกค้าสามารถเปลี่ยนมาใช้บริการ และทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน SCB EASY App (แอปพลิชันทางการเงินบนสมาร์ทโฟน) ซึ่งเป็นระบบที่มีความทันสมัย และปลอดภัยยิ่งกว่า

สำหรับ SCB EASY NET ที่มีการทำรายการโอนเงินและจ่ายบิลล่วงหน้า (Schedule Transfer & Bill Payment) ไว้ ซึ่งกำหนดให้รายการมีผลตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป รายการดังกล่าวจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ โดยธนาคารขอให้ลูกค้าทำรายการใหม่อีกครั้งผ่าน SCB EASY App แต่สำหรับลูกค้าที่เคยสมัครใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติเพื่อชำระค่าบริการต่าง ๆ (Direct Debit) ผ่าน่ SCB EASY NET ไว้ บริการดังกล่าวจะยังมีผลใช้บังคับอยู่

ในมุมของการให้บริการ ลูกค้ายังสามารถใช้บริการ และทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารผ่าน SCB EASY App ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าในการทำธุรกรรมทางการเงิน, ชำระบิล, ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือ, ตรวจสอบรายการธุรกรรมล่าสุด และอื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่งธนาคารมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวแอปพลิเคชันดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ทันสมัยและปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานทุกคน สำหรับลูกค้า SCB EASY NET ที่ยังไม่เคยใช้บริการ หรือทำธุรกรรมผ่าน SCB EASY App สามารถดาวน์โหลด SCB EASY App ได้ด้วยตนเอง ผ่าน App Store และ Play Store

ธนาคารขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและไว้วางใจใช้บริการของธนาคารด้วยดีเสมอมา หากลูกค้ามีข้อสงสัยหรือประสงค์จะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ ศูนย์บริการลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ SCB Call Center โทร. 02-777-7777 ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

เปิดให้นั่งฟรีแล้วพรุ่งนี้! 3 มิถุนายน รถไฟฟ้าสายสีเหลือง

เปิดให้นั่งฟรีแล้วพรุ่งนี้! 3 มิถุนายน รถไฟฟ้าสายสีเหลือง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 3 มิ.ย. 66 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และเอกชนผู้รับสัมปทานโครงการ จะเริ่มเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรี สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งในช่วงสัปดาห์แรกจะเปิดให้ทดลองก่อน 13 สถานี ระหว่างสถานีสำโรง-สถานีหัวหมาก จากนั้นจะทยอยเปิดให้ทดลองครบทั้ง 23 สถานี รวมระยะทาง 30.40 กม. ภายในสัปดาห์ที่ 2 ของการเปิดทดลอง

ทั้งนี้ จะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง บริการฟรีไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 66 โดยระยะแรกของการทดลองจะให้บริการระหว่าง 06.00-21.00 น. จากนั้นจะทยอยขยายเวลาไปถึง 24.00 น. ซึ่งการให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการ ถือเป็นการทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) โดยจะมีออกตั๋วโดยสารที่เครื่องจำหน่ายอัตโนมัติจริง แต่ยังไม่ต้องชำระเงินจริง จากนั้นนำตั๋วโดยสารไปแตะผ่านประตูทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าต่อไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับการให้บริการเชิงพาณิชย์ เริ่มเก็บค่าโดยสารสำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตามกำหนดการจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค. 66 เป็นต้นไป ซึ่งเมื่อให้บริการเต็มรูปแบบแล้วจะเติมเต็มโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เพิ่มความสะดวกสบายแก่ประชาชนยิ่งขึ้น เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าระบบโมโนเรล

มีแนวเส้นทางผ่านย่านที่อยู่อาศัยและย่านธุรกิจสำคัญๆ คือเริ่มต้นที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว วิ่งไปตามถนนลาดพร้าว จนถึงแยกบางกะปิ และเลี้ยวขวาไปตามถนนศรีนครินทร์ ผ่านแยกศรีนุช ศรีอุดม ศรีเอี่ยม จนถึงแยกศรีเทพา เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเทพารักษ์ ไปสิ้นสุดที่จุดตัดถนนสุขุมวิท ที่สถานีสำโรง

กนง. มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%

กนง. มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมวันที่ 31 พ.ค. 66 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.75% เป็น 2.00% ต่อปี โดยให้มีผลทันที โดยเห็นว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ

เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ ขณะที่การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลง

แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวในระดับสูง ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ในบริบทที่เศรษฐกิจขยายตัวดี รวมทั้งการส่งผ่านต้นทุนผู้ประกอบการอาจปรับสูงขึ้นจากแรงกดดันด้านอุปทาน คณะกรรมการฯ เห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้

สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.6 ในปีนี้ และร้อยละ 3.8 ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลบวกต่อการจ้างงานและรายได้แรงงาน และเป็นแรงส่งต่อเนื่องไปยังการบริโภคภาคเอกชน ด้านการส่งออกทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ และคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นในระยะต่อไป สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่แม้จะชะลอลงบ้างแต่ยังมีทิศทางขยายตัว

คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวสูงกว่าที่ประเมินไว้ ส่วนหนึ่งจากนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักที่ยังมีความไม่แน่นอน

อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับลดลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย และคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ในปีนี้ และ ร้อยละ 2.4 ในปี 2567 จากแรงกดดันจากค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันที่ทยอยคลี่คลาย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.0 ในปี 2566 และ 2567 ซึ่งอยู่ในระดับสูงเทียบกับอดีต ทั้งนี้

อัตราเงินเฟ้อมีความเสี่ยงด้านสูงจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ในบริบทที่เศรษฐกิจขยายตัวดี รวมทั้งการส่งผ่านต้นทุนผู้ประกอบการอาจปรับสูงขึ้นจากแรงกดดันด้านอุปทาน ซึ่งส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐในระยะต่อไป จึงต้องติดตามพฤติกรรมการปรับราคาของผู้ประกอบการที่อาจเปลี่ยนไป

อนุกรรมการค่าไฟ จ่อพิจารณาปรับลดค่า Ft งวด พ.ค.-ส.ค.

อนุกรรมการค่าไฟ จ่อพิจารณาปรับลดค่า Ft งวด พ.ค.-ส.ค.

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) โฆษก กกพ. กล่าวว่า อนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) วันนี้ (21 เม.ย. 66) จะพิจารณาเรื่องการปรับลดค่าไฟฟ้าเอฟทีสำหรับงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.66 ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้าที่รับภาระแทนประชาชนไปก่อนจาก 2 ปี เป็น 2 ปี 4 เดือน ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยงวดที่ 2 ของปีนี้ เดือนพ.ค.-ส.ค. ลดลงจาก 4.77 บาท หากได้รับความเห็นชอบก็จะประกาศลดค่าไฟฟ้าต่อไป

ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานคณะกรรมการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.ได้ทำหนังสือ ยืนยันไปยัง กกพ. และเชื่อว่า กกพ.จะเห็นชอบปรับลดค่าไฟฟ้า เอฟที งวดที่ 2 เนื่องจากอากาศร้อนจัด ประชาชนเปิดแอร์ดับร้อนกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลเกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของปีนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ (19 เม.ย.) เวลา 20.44 น. ที่ 32,212.5 เมกะวัตต์ ซึ่งค่าไฟฟ้าเมืองไทยเป็นอัตราก้าวหน้ายิ่งใช้หน่วยจำนวนมากก็ยิ่งจ่ายแพง

สำหรับค่าไฟงวดนี้ (ม.ค.-เม.ย.66) ค่าไฟฟ้าบ้านที่อยู่อาศัยเฉลี่ยที่ 4.72 บาทต่อหน่วย และยังมีเงินช่วยเหลือจากรัฐลดพิเศษให้ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน

ใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชน เริ่มตี 5 วันที่ 1 เม.ย. 66 ” บัตรคนจน “

ใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชน เริ่มตี 5 วันที่ 1 เม.ย. 66 " บัตรคนจน "

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 12,565,862 ราย สามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ ดังนี้

1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่เวลา 05.00–23.00 น.

2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ตั้งแต่เวลา 05.00–23.00 น.

3. วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่

  • รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
  • รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
  • รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (Bangkok Mass Transit System : BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด
  • รถไฟ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมการเพิ่มเติมประเภทระบบขนส่งเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิฯ ได้แก่

  • รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร
  • รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน
  • รถสองแถวรับจ้าง
  • เรือโดยสารสาธารณะ

โดยหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบต่อไป

4. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด

5. มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง แต่หากผู้มีสิทธิฯ มีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

ทั้งนี้ สำหรับมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ผู้มีสิทธิฯ ที่ประสงค์รับสิทธิในมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปาจะต้องดำเนินการลงทะเบียนผ่านผู้ให้บริการดังกล่าวก่อนการเริ่มใช้สิทธิตามกรอบเวลาที่ผู้ให้บริการกำหนด ซึ่งกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะชำระค่าบริการที่ผู้มีสิทธิฯ ได้ใช้บริการตามเงื่อนไขที่กำหนดให้แก่หน่วยงานผู้ให้บริการทั้ง 5 แห่ง ได้แก่

  • สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง
  • สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
  • กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ
  • สำนักงานการประปานครหลวง
  • สำนักงานการประปาภูมิภาค

โดยผู้มีสิทธิฯ ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาก่อนแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นครั้งแรกของประชาชนที่จะมีการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรประจำตัวประชาชน ในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ก๊าซหุงต้ม และค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ประกอบกับเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางได้เปิดให้บริการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Call Center) ในช่วงวันที่ 1–2 เมษายน 2566 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน กรณีผู้มีสิทธิฯ มีข้อสงสัยสามารถติดต่อ Call Center โทร. 02 109 2345