เปิดให้นั่งฟรีแล้วพรุ่งนี้! 3 มิถุนายน รถไฟฟ้าสายสีเหลือง

เปิดให้นั่งฟรีแล้วพรุ่งนี้! 3 มิถุนายน รถไฟฟ้าสายสีเหลือง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 3 มิ.ย. 66 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และเอกชนผู้รับสัมปทานโครงการ จะเริ่มเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการฟรี สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งในช่วงสัปดาห์แรกจะเปิดให้ทดลองก่อน 13 สถานี ระหว่างสถานีสำโรง-สถานีหัวหมาก จากนั้นจะทยอยเปิดให้ทดลองครบทั้ง 23 สถานี รวมระยะทาง 30.40 กม. ภายในสัปดาห์ที่ 2 ของการเปิดทดลอง

ทั้งนี้ จะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง บริการฟรีไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 66 โดยระยะแรกของการทดลองจะให้บริการระหว่าง 06.00-21.00 น. จากนั้นจะทยอยขยายเวลาไปถึง 24.00 น. ซึ่งการให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการ ถือเป็นการทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) โดยจะมีออกตั๋วโดยสารที่เครื่องจำหน่ายอัตโนมัติจริง แต่ยังไม่ต้องชำระเงินจริง จากนั้นนำตั๋วโดยสารไปแตะผ่านประตูทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าต่อไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับการให้บริการเชิงพาณิชย์ เริ่มเก็บค่าโดยสารสำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตามกำหนดการจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค. 66 เป็นต้นไป ซึ่งเมื่อให้บริการเต็มรูปแบบแล้วจะเติมเต็มโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เพิ่มความสะดวกสบายแก่ประชาชนยิ่งขึ้น เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าระบบโมโนเรล

มีแนวเส้นทางผ่านย่านที่อยู่อาศัยและย่านธุรกิจสำคัญๆ คือเริ่มต้นที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว วิ่งไปตามถนนลาดพร้าว จนถึงแยกบางกะปิ และเลี้ยวขวาไปตามถนนศรีนครินทร์ ผ่านแยกศรีนุช ศรีอุดม ศรีเอี่ยม จนถึงแยกศรีเทพา เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเทพารักษ์ ไปสิ้นสุดที่จุดตัดถนนสุขุมวิท ที่สถานีสำโรง

กนง. มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%

กนง. มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมวันที่ 31 พ.ค. 66 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.75% เป็น 2.00% ต่อปี โดยให้มีผลทันที โดยเห็นว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ

เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ ขณะที่การส่งออกสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลง

แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวในระดับสูง ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ในบริบทที่เศรษฐกิจขยายตัวดี รวมทั้งการส่งผ่านต้นทุนผู้ประกอบการอาจปรับสูงขึ้นจากแรงกดดันด้านอุปทาน คณะกรรมการฯ เห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้

สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.6 ในปีนี้ และร้อยละ 3.8 ในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลบวกต่อการจ้างงานและรายได้แรงงาน และเป็นแรงส่งต่อเนื่องไปยังการบริโภคภาคเอกชน ด้านการส่งออกทยอยฟื้นตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ และคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นในระยะต่อไป สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่แม้จะชะลอลงบ้างแต่ยังมีทิศทางขยายตัว

คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวสูงกว่าที่ประเมินไว้ ส่วนหนึ่งจากนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักที่ยังมีความไม่แน่นอน

อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับลดลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย และคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ในปีนี้ และ ร้อยละ 2.4 ในปี 2567 จากแรงกดดันจากค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันที่ทยอยคลี่คลาย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.0 ในปี 2566 และ 2567 ซึ่งอยู่ในระดับสูงเทียบกับอดีต ทั้งนี้

อัตราเงินเฟ้อมีความเสี่ยงด้านสูงจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ในบริบทที่เศรษฐกิจขยายตัวดี รวมทั้งการส่งผ่านต้นทุนผู้ประกอบการอาจปรับสูงขึ้นจากแรงกดดันด้านอุปทาน ซึ่งส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐในระยะต่อไป จึงต้องติดตามพฤติกรรมการปรับราคาของผู้ประกอบการที่อาจเปลี่ยนไป

อนุกรรมการค่าไฟ จ่อพิจารณาปรับลดค่า Ft งวด พ.ค.-ส.ค.

อนุกรรมการค่าไฟ จ่อพิจารณาปรับลดค่า Ft งวด พ.ค.-ส.ค.

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) โฆษก กกพ. กล่าวว่า อนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) วันนี้ (21 เม.ย. 66) จะพิจารณาเรื่องการปรับลดค่าไฟฟ้าเอฟทีสำหรับงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.66 ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้าที่รับภาระแทนประชาชนไปก่อนจาก 2 ปี เป็น 2 ปี 4 เดือน ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยงวดที่ 2 ของปีนี้ เดือนพ.ค.-ส.ค. ลดลงจาก 4.77 บาท หากได้รับความเห็นชอบก็จะประกาศลดค่าไฟฟ้าต่อไป

ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานคณะกรรมการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.ได้ทำหนังสือ ยืนยันไปยัง กกพ. และเชื่อว่า กกพ.จะเห็นชอบปรับลดค่าไฟฟ้า เอฟที งวดที่ 2 เนื่องจากอากาศร้อนจัด ประชาชนเปิดแอร์ดับร้อนกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลเกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของปีนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ (19 เม.ย.) เวลา 20.44 น. ที่ 32,212.5 เมกะวัตต์ ซึ่งค่าไฟฟ้าเมืองไทยเป็นอัตราก้าวหน้ายิ่งใช้หน่วยจำนวนมากก็ยิ่งจ่ายแพง

สำหรับค่าไฟงวดนี้ (ม.ค.-เม.ย.66) ค่าไฟฟ้าบ้านที่อยู่อาศัยเฉลี่ยที่ 4.72 บาทต่อหน่วย และยังมีเงินช่วยเหลือจากรัฐลดพิเศษให้ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน

ใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชน เริ่มตี 5 วันที่ 1 เม.ย. 66 ” บัตรคนจน “

ใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชน เริ่มตี 5 วันที่ 1 เม.ย. 66 " บัตรคนจน "

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 12,565,862 ราย สามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ ดังนี้

1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่เวลา 05.00–23.00 น.

2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ตั้งแต่เวลา 05.00–23.00 น.

3. วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่

  • รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
  • รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
  • รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (Bangkok Mass Transit System : BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด
  • รถไฟ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมการเพิ่มเติมประเภทระบบขนส่งเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิฯ ได้แก่

  • รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร
  • รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน
  • รถสองแถวรับจ้าง
  • เรือโดยสารสาธารณะ

โดยหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบต่อไป

4. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด

5. มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง แต่หากผู้มีสิทธิฯ มีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

ทั้งนี้ สำหรับมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ผู้มีสิทธิฯ ที่ประสงค์รับสิทธิในมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปาจะต้องดำเนินการลงทะเบียนผ่านผู้ให้บริการดังกล่าวก่อนการเริ่มใช้สิทธิตามกรอบเวลาที่ผู้ให้บริการกำหนด ซึ่งกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะชำระค่าบริการที่ผู้มีสิทธิฯ ได้ใช้บริการตามเงื่อนไขที่กำหนดให้แก่หน่วยงานผู้ให้บริการทั้ง 5 แห่ง ได้แก่

  • สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง
  • สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
  • กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ
  • สำนักงานการประปานครหลวง
  • สำนักงานการประปาภูมิภาค

โดยผู้มีสิทธิฯ ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาก่อนแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นครั้งแรกของประชาชนที่จะมีการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรประจำตัวประชาชน ในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ก๊าซหุงต้ม และค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ประกอบกับเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางได้เปิดให้บริการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Call Center) ในช่วงวันที่ 1–2 เมษายน 2566 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน กรณีผู้มีสิทธิฯ มีข้อสงสัยสามารถติดต่อ Call Center โทร. 02 109 2345

ราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ขึ้น 60 สตางค์ต่อลิตร

ราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันวันนี้ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR ในกลุ่มบริษัท ปตท. และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอลทุกชนิดเพิ่มขึ้น 0.60 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 30 มี.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

ราคาน้ำมันวันนี้ มีผล 30 มี.ค. 2566 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

เบนซิน 95 : 44.16 บาทต่อลิตร

แก๊สโซฮอล์ 95 : 36.35 บาทต่อลิตร

แก๊สโซฮอล์ 91 : 36.08 บาทต่อลิตร

E20 : 34.04 บาทต่อลิตร

E85 : 34.49 บาทต่อลิตร

ดีเซล : 33.44 บาทต่อลิตร

B20 : 33.44 บาทต่อลิตร

(ราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่)

เปิดรายได้ยูทูบเบอร์ “นุ่น สุทธิภา คงแนวดี”

เปิดรายได้ยูทูบเบอร์ "นุ่น สุทธิภา คงแนวดี"

นุ่น สุทธิภา คงแนวดี เธอได้รับฉายาจ้าวลู่ซือ เมืองไทย “นุ่น สุทธิภ” เข้าสู่วงการบันเทิงจากการประกวด Utip Freshy Idol 5 ในปี 2554 รุ่นที่ 5 ได้รับรางวัล Miss Popular Vote Award หลังจากนั้นได้เข้าวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว มีผลงานการแสดงหลายเรื่อง อาทิ U-PRINCE Series ตอนธีสิส, อาตี๋ของผม, Endless Love รักหมดใจ เป็นต้น และเคยเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงสังกัด GMMTV ปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นนักแสดงและนางแบบอิสระ

นอกจากผลงานของ “นุ่น สุทธิภา” ที่มีทั้ง ซีรีส์ รวมถึงมิวสิควิดีโอ ให้เราได้ติดตามผลงานของเธอแล้ว อีกมุมหนึ่ง เธอยังมีช่องของตนเองบนยูทูบ โดยใช้ชื่อช่องว่า NoonSutthipha อยากรู้มั้ย “นุ่น สุทธิภา” มีรายได้จากการเป็นยูทูบเบอร์เท่าไหร่ เราได้ลองเอาช่องยูทูบของ นุุ่น สุทธิภา มาเข้าระบบคำนวณผ่านเว็บไซต์ NoxInfluencer ซึ่ง

เป็นระบบการให้บริการข้อมูลและวิเคราะห์เชิงลึกของ Influencer ได้รวบรวมฐานและจัดอันดับคนดังในสื่อออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Instagram, TikTok และ Twitch พบว่าเมื่อนำลิงก์ช่องของ นุ่น สุทธิภา คงแนวดี มาตรวจสอบพบว่า ช่องของเขามีจำนวนผู้ติดตาม 279,000 คน มีรายได้โดยรวมต่อเดือนราว 1,856,570 บาท (CPM : 25.46-89.1 บาท) ขณะที่รายได้โดยประมาณของแต่ละวิดีโออยู่ที่ 69,559 บาท (CPM: 127.28-฿ 318.2 บาท)

ราคาทองวันนี้ 23มีนาคม66 เปิดพุ่ง 200 บาท ทองคำแท่งขายออก 31,850 บาท

ราคาทองคำวันนี้

ราคาทองวันนี้ เป็นอย่างไรกันบ้าง มาดูกานอัปเดตกัน ราคาทอง ราคาทองคำ วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม 2566 เวลา 09:28 น. ราคาทองเพิ่มขึ้น 200 บาท 

ราคาทองวันนี้ 23 มีนาคม 2566 ราคาทองรูปพรรณ และราคาทองคำแท่ง

ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 31,750.00 บาท ขายออกบาทละ 31,850.00 บาท

ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 31,184.12 บาท ขายออกบาทละ 32,350.00 บาท

ราคาทองวันนี้ 2 สลึง หรือ 50 สตางค์

ทองคำแท่ง 2 สลึง รับซื้อ 15,875 บาท ขายออก 15,925 บาท

ทองรูปพรรณ 2 สลึง รับซื้อ 15,592.06 บาท ขายออก 16,175 บาท

เลือกตั้ง 66 เทียบนโยบายเศรษฐกิจพรรคการเมืองก่อนลงสนามชิงใจคน

เลือกตั้ง 66 เทียบนโยบายเศรษฐกิจพรรคการเมืองก่อนลงสนามชิงใจคน

ใกล้เข้าสู่การเลือกตั้ง 2566 แล้ว พรรคการเมืองแต่ละพรรค ต่างชูนโยบายเด็ดที่จะเป็นจุดขายครองใจประชาชนกันอย่างล้นหลาม ทั้งนโยบายกระตุ้น หรือฟื้นฟูเศรษฐกิจ การค้า-การลงทุน รวมถึงนโยบายประชารัฐ และการแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองมีนโยบายอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กัน

พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

  • การประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง ข้าว มัน ยาง ปาล์ม และข้าวโพด
  • เงินช่วยเหลือชาวนา 30,000 บาทต่อครัวเรือน
  • ฟรีนมโรงเรียน 365 วัน
  • เงินอุดหนุนประมง 100,000 บาทต่อปี
  • ธนาคารหมู่บ้าน และชุมชน 2 ล้านบาท ทั่วประเทศ
  • ออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง ภายใน 4 ปี
  • ออกกรรมสิทธิ์ทำกินให้เกษตรกรที่อยู่ในที่ดินต่างๆ ของรัฐ

พรรคเพื่อไทย

  • ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ดัน GDP ไทยโตเฉลี่ย 5% ต่อปี
  • ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน
  • เงินเดือนปริญญาตรีเริ่มต้น 25,000 บาท
  • ทุกครอบครัว มีรายได้ ไม่น้อยกว่า 20,000 บาทต่อเดือน
  • เติมเงินให้ทุกคนใช้จ่ายใกล้บ้านผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล
  • ไทยเป็น Blockchain Hub และ Fintech Center ของอาเซียน
  • ยกระดับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค

พรรคพลังประชารัฐ

  • เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาทต่อเดือน
  • สวัสดิการผู้สูงอายุ 60 ปี ได้รับเงิน 3,000 บาท, อายุ 70 ปี ได้รับเงิน 4,000 บาท และอายุ 80 ปี ได้รับเงิน 5,000 บาท
  • เร่งออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทุกประเภทเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด จัดที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้คนไร้ที่ทำกินกว่า 2 ล้านราย

พรรครวมไทยสร้างชาติ

  • เพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการพลัสเป็น 1,000 บาทต่อเดือน และสิทธิเบิกฉุกเฉิน 10,000 บาทต่อคน
  • ตั้งกองทุนฉุกเฉินประชาชนวงเงิน 30,000 ล้านบาท
  • คืนเงินสะสมชราภาพ 30% ให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยไม่ต้องรอครบกำหนดอายุ
  • โครงการปลดหนี้ด้วยงาน

พรรคชาติพัฒนากล้า

  • ลดภาษีบุคคล เงินเดือน 40,000 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษี
  • รื้อโครงสร้างพลังงาน น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า ต้องถูกลง
  • ยกเลิกแบล็กลิสต์บูโร รื้อระบบสินเชื่อ
  • ทุนธุรกิจสร้างสรรค์สูงสุดรายละ 1 ล้านบาท ไม่จำกัดวุฒิและวัย

พรรคภูมิใจไทย

  • พักหนี้ 3 ปี หยุดต้นปลดดอกเบี้ยคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท
  • เกษตรร่ำรวยด้วย Contract Farming รู้ราคาก่อนปลูกรับเงินก่อนขาย
  • ลดภาษี 2 ทาง ผู้ให้-ผู้รับ วัยทำงานต้องไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน (ใช้ VAT เพื่อหักภาษีส่วนบุคคลสูงสุด 150,000 บาท/ปี)
  • ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้าหลังคาเรือนละ 450 บาท

ธอส. จับมือ SAM จัดทำ “โครงการสินเชื่อบ้าน บสส. (SAM) by GHB”

ธอส. จับมือ SAM จัดทำ “โครงการสินเชื่อบ้าน บสส. (SAM) by GHB”

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง(ทรัพย์ NPA) จากบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) ได้มีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่าน

“โครงการสินเชื่อบ้าน บสส. (SAM) by GHB” กรอบวงเงินรวม 800 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 3 เท่ากับ MRR-2.60% ต่อปี (3.80%) ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% (5.40%) และกรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% (5.90%) กรณีกู้ซื้ออุปกรณ์ฯ = MRRวัตถุประสงค์การให้กู้ เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย

ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย โดยผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นปีแรกเพียงเดือนละ 4,700 บาทเท่านั้น สามารถลดภาระการผ่อนชำระเงินงวดลงเมื่อเทียบกับการผ่อนเงินดาวน์เฉลี่ยเดือนละ 2,000-3,000 บาท ยื่นคำขอกู้อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567

นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวว่า รู้สึกยินดีและขอขอบคุณ ธอส. ในการลงนาม MOU ครั้งนี้ ซึ่งนำมาสู่การเปิดตัวแคมเปญ “สินเชื่อบ้าน บสส. (SAM) by GHB” และโปรโมชั่น “กู้ได้ให้เลย” ซึ่งเป็นการให้บริการทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าของ SAM ควบคู่กัน โดยความร่วมมือที่เกิดขึ้น มีส่วนสำคัญ

ในการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าหรือผู้สนใจที่กำลังมองหาหรือต้องการซื้อทรัพย์สินเพื่อการอยู่อาศัย อาทิ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ ฯลฯ ในทำเลดีและราคาเหมาะสมทั่วประเทศจาก SAM ด้วยวิธีเสนอซื้อตรงหรือประมูล จะได้รับสิทธิ์และอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ในการขอสินเชื่อผ่าน ธอส. พร้อมบัตรสมนาคุณเพิ่มเติมจาก SAM ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ส่วน

ลูกค้าเก่าของ SAM ที่อยู่ในโครงการ SAM Super Light ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าอยู่ระหว่างผ่อนชำระจำนวน 364 รายนั้น สามารถยื่นขอสินเชื่อตามเงื่อนไขของโครงการได้เช่นกัน และคาดว่าจะได้รับความสนใจและตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าร่วม “โครงการสินเชื่อบ้าน บสส. (SAM) by GHB” สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL, GHB ALL GEN และwww.ghbank.co.th หรือช่องทางของ SAM Call Center 02-686-1888 สำหรับช่องทางการติดต่อ SAM สามารถดูรายละเอียดทรัพย์สินได้ทางเว็บไซต์ที่ www.sam.or.th รวมทั้งช่องทางออนไลน์ที่หลากหลายและสะดวกรวดเร็ว ID Line @Samline ติดตาม Facebook Fanpage ทรัพย์มือสองต้อง SAM หรือ SAM NPA Channel บน YouTube เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารดี ๆ จาก SAM

โอกาสมาแล้ว! เตรียมระดมทุนสู่การเติบโตทางธุรกิจ-เข้าตลาดหลักทรัพย์

โอกาสมาแล้ว! เตรียมระดมทุนสู่การเติบโตทางธุรกิจ-เข้าตลาดหลักทรัพย์

นายจิตรเทพ เนื่องจำนงค์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท พรีแพร์ ฟอร์ ไอพีโอ จำกัด จัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในการระดมทุนสู่การเติบโตทางธุรกิจ(DIPROM Capital Market) ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้กับผู้ประกอบการในการระดมทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนใน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้เข้าร่วมการอบรมจะได้พบกับสุดยอดผู้เชี่ยวชาญด้านการระดมทุนระดับประเทศ สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ อาทิ นายกระทรวง จารุศิระ นักลงทุน ผู้ก่อตั้ง ซุปเปอร์เทรดเดอร์ นายปุณญวีร์ จันทรขจร ผู้ก่อตั้ง บลป. ควันตัม เว็ลธ์

ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้ทั้งในเรื่องเส้นทางสู่การระดมทุนเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แนวโน้มเศรษบกิจโลกปัจจุบันในการลงทุนของกองทุน การเตรียมตัวก่อนเข้าระดมทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ Crowdfunding ทางเลือกแหล่งเงินทุนของเอสเอ็มอี แนะนำแหล่งเงินทุนใหม่ๆ ของเอสเอ็มอี เช่น

Private Equity และ Venture Capital การจัดการเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจและวิธีการเตรียมตัวนำเสนอ Pitching ต่อนักลงทุน และ IPO Case Study รวมทั้ง Business Matching